SAP Southeast Asia News Center

DoHome Drives Business Innovation with Digital Transformation

Automatic robot mechanical arm is working in temporary storage in a distribution warehouse.

DOHOME เดินทัพมุ่ง Digital Transformation  เตรียมพร้อมสู่ความท้าทายในธุรกิจโลกอนาคต

Leadership Conversation Series
DoHome Plc. Drives Business Innovation with Digital Transformation

 Dohome Plc is a Thailand-based company that provides construction materials, home improvement and furnishing supplies, and household appliances. It is one of only two Isan province-based companies listed on the Stock Exchange of Thailand with a market value of more than US $1 billion. In this series we speak to Mrs. Saliltip Ruangsuttipap, Deputy Managing Director- Accounting, Finance and Organization Support about the company’s expansion plans and digital transformation initiatives.

Tell us more about Dohome Plc

Dohome is a family business, established in Ubon Ratchathani, a major rice-growing region in Isan, about 600km north of Bangkok. Our goal is to be a ‘one stop shop’ for consumers, offering a range of construction materials and home furnishings, at higher quality but lower prices. Four years ago, we expanded our business to Bangkok and continue to grow in Thailand. We currently operate 14 retail outlets and plan to increase this to 32 by 2025.

As a family-run business, we put our people first in everything we do. Dohome empowers our employees to be innovative and creative within our organisation and to create a happy workplace, together. Dohome considers our business partners very important in our success as well as our duty to society in being a responsible and socially conscious business.

Technology has been at the core of an organization’s ability to become more agile and resilient. How did Dohome respond to COVID-19 disruptions and transform to become more future-ready?

Since the start of the pandemic, we have seen a gradual change in our customer behaviour. With majority of the retail stores being shut down and more people staying at home, there was a growing trend for home improvement projects and interior decoration. Retailers such as Dohome traditionally relied on customer footfall in retail stores; but last year, e-commerce played a significant role in shaping new consumer buying patterns.

As such, we quickly adapted to the new way of doing business to maintain our growth. One key priority for us was to strengthen our e-commerce platform. We also quickly deployed a ‘change management’ team to ensure that all of our employees were aware of the new direction we were taking and would be aligned with the new initiatives that were being implemented.

For us, before any digital transformation would take place, it was very important to ensure that our people would understand the objectives, get upskilled, and be driven towards the same goals. With strong support from Dohome management, we were ready to embark on technology transformation to strengthen internal capabilities as well as innovate new business models.

Dohome recently selected SAP to address some of the key challenges. Could you explain what led to this decision? What were some of the benefits?

Investing in the right technology was a first step towards growing the business and achieving our goals. Our strategy was to unify our data and automate business processes and for that we digitized our core with SAP S4/HANA. Storing information in a centralised location made it easily accessible to everyone in our organisation. This allowed for better collaboration and planning. In addition, accessing real-time data vastly improved our inventory and stock turnover and aided to better forecasting. A reduction in replenishment lead time helped to reduce safety stock levels and prevent waste. Achieving these new efficiencies helped us better serve customer needs by supplying the right products at the right time. We also leveraged SAP Intelligent Robotic Process Automation (iRPA) to reduce manual processes and boosted efficiency in our regular day-to-day activities, especially finance department.

For our company, it was vital that employees followed the same learning curve to keep pace with the future growth of Dohome. As such, SAP SuccessFactors was the next stage of technology implementation, in line with our people-first strategy. We implemented Learning Management System to train employees and evolve our workforce to adapt to change.

The knowledge and expertise of SAP teams as well as implementation partners – Atos for SAP S4HANA & ABeam Consulting for SAP Successfactors, provided an excellent all-round support system.  With new technology, today our organization and our people are more empowered to deal with the uncertainties of the future.

Many companies are undergoing digital transformation to prepare themselves for a post-pandemic era. What would be your advice to them? 

Digital transformation helps an organisation keep up with emerging customer demands and new market opportunities. It is no longer considered a luxury investment but is definitely necessary for business survival in this new normal. Digital transformation is a constant evolution and will continue to drive economic competitiveness. When we consider the post-pandemic period, one thing is certain: consumer digital habits have changed forever. Customers are shopping online more and using more connected devices such as smartphones, tablets, and smart voice speakers. Organisations must take these new trends into consideration to attract and retain consumers in a digital world.

 

คุณสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพม รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน)


Leadership Conversations
DoHome Plc. Drives Business Innovation with Digital Transformation

บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง และให้บริการด้านวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจร ภายใต้แนวคิดการดำเนินธุรกิจ “ครบ ถูก ดี…ที่ดูโฮม”

DOHOME เข้าทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2562 ด้วยราคา IPO 7.80 บาท คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์กว่า 14,478 ล้านบาท จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้านของบริษัทฯ ปัจจุบันจึงมีมูลค่าหลักทรัพย์ (Market Cap) กว่า 60,000 ล้านบาท ถือเป็นหนึ่งในสองของบริษัททางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และมีมูลค่าหลักทรัพย์สูงสุด

DOHOME เป็นธุรกิจ Modern Trade อันดับต้นๆ ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 2.7%  (ที่มา: กระทรวงพาณิชย์ อ้างอิงจากรายงานวิจัยกรุงศรี) โดยในปี 2564 มีการเติบโตที่โดดเด่น จากผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1 และ 2 บริษัทฯ มียอดขายรวมเติบโต 33.7% และ 38.3% (YoY) ยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) เติบโต 22.5% และ 23.6% (YoY) จากกลยุทธ์ต่างๆ รวมถึงทีมงานที่พร้อมและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ในช่วงครึ่งปีแรกจึงทำให้บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 12,529 ล้านบาท ถือเป็นสถิติสูงสุดของ    บริษัทฯ

ช่วยเล่าให้ฟังเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DOHOME

DOHOME เป็นธุรกิจที่ก่อตั้งขึ้นในจังหวัดอุบลราชธานี เป้าหมายของเราคือการเป็น ‘One stop Home Product Destination’ สำหรับผู้บริโภค เรามีผลิตภัณฑ์มากกว่า 100,000 SKU และดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “สินค้า ครบ ราคาถูก คุณภาพดี” เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เราย้ายสำนักงานใหญ่จากจังหวัดอุบลราชธานีเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ปัจจุบันเรามีสาขาขนาดใหญ่ทั้งหมด 14 สาขา และยังมีแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมจังหวัดต่างๆ ที่มีศักยภาพและสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น เรามีแผนขยายสาขาขนาดใหญ่ให้ครบ 36 สาขา ภายในปี 2568

ในฐานะธุรกิจที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัว เราให้ความสำคัญกับพนักงานเป็นอันดับแรก เราผลักดันให้พนักงานของเรามีนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และสร้างสถานที่ทำงานที่มีความสุขร่วมกัน DOHOME ถือว่าคู่ค้าทางธุริกจมีความสำคัญมากต่อความสำเร็จของเรา และตลอดจนพนักงานของเราที่มีส่วนสำคัญมากในการทำให้องค์กรของเราเติบโตอย่างยั่งยืน เราดำเนินธุรกิจด้วยนโยบายที่มีความรับผิดชอบใส่ใจต่อสังคม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

 

เทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญของความ สามารถขององค์กรให้เกิดความคล่องตัวและ ยืดหยุ่นมากขึ้น DOHOME รับมือกับการ Disruption ของ COVID-19 อย่างไร และมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้พร้อมสำหรับอนาคตมากขึ้นอย่างไร?

นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมลูกค้าทีละน้อย เนื่องจากร้านค้าปลีกส่วนใหญ่ปิดตัวลงและหลายคนต้องอยู่บ้าน จึงทำให้ผู้บริโภคเริ่มปรับปรุงบ้านและตกแต่งบ้าน โดยปกติเรามักจะพึ่งลูกค้าที่เดินเข้าในสาขา แต่ในปีที่แล้วอินเทอร์เน็ตได้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดรูปแบบการซื้อใหม่ๆ ของผู้บริโภค

ด้วยเหตุนี้เราจึงปรับให้เข้ากับวิธีการใหม่ในการทำธุรกิจอย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาการเติบโตของบริษัทฯ    สิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับเราคือการเสริมความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของเรา นอกจากนี้เรายังจัดทีม ‘Change management’ ขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานทุกคนตระหนักถึงทิศทางใหม่ที่เรากำลังดำเนินการอยู่และจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งใหม่ๆ ที่บริษัทกำลังดำเนินการ

สำหรับเรา ก่อนที่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลจะเกิดขึ้นสิ่งสำคัญมากคือต้องแน่ใจว่าพนักงานของเราจะเข้าใจวัตถุประสงค์ ยกระดับทักษะ และมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน ด้วยการสนับสนุนอันแข็งแกร่งจากฝ่ายบริหารของ DOHOME เราพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการในการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี เพื่อเสริมสร้างความสามารถภายในองค์กร รวมถึงการสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่


DOHOME วางใจเลือก SAP เพื่อจัดการกับความ
ท้าทายสำคัญที่เกิดขึ้น คุณช่วยอธิบายสิ่งที่นำไปสู่การตัดสินใจนี้ได้ไหม ว่ามีประโยชน์อะไรบ้าง?

การลงทุนในเทคโนโลยีที่เหมาะสมเป็นก้าวแรกสู่การเติบโตของธุรกิจและบรรลุเป้าหมาย กลยุทธ์ของเราคือ การรวมข้อมูลและทำให้กระบวนการทางธุรกิจเป็นแบบอัตโนมัติ และด้วยเหตุนี้ เราจึงเปลี่ยนแปลงแกนหลักของเราให้เป็นดิจิทัลด้วย SAP S4HANA ซึ่งเป็นการจัดเก็บข้อมูลที่ทำให้ทุกคนในองค์กรเข้าถึงได้ง่าย สามารถทำงานร่วมกันและวางแผนได้ดียิ่งขึ้น การเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ยังช่วยให้เราบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้ดียิ่งขึ้น ระยะเวลาในการเติมสินค้าที่ลดลงช่วยลดสต็อกสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การบรรลุประสิทธิภาพใหม่เหล่านี้ช่วยให้เราตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้เรายังใช้ประโยชน์จาก SAP Intelligent Robotic Process Automation (IRPA) เพื่อลดกระบวนการแบบ Manual และเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานในแต่ละวัน สำหรับในเรื่องการพัฒนาการเรียนรู้ เพื่อให้ทันกับการเติบโตในอนาคต SAP SuccessFactors จึงเป็นเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับกลยุทธ์เราที่ให้ความสำคัญกับบุคลากรของเราเป็นอันดับแรก เราใช้ระบบการจัดการ การเรียนรู้ เพื่อฝึกอบรมพนักงานและพัฒนาบุคลากรให้สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้

ความรู้และความเชี่ยวชาญของทีม SAP รวมถึงพันธมิตรที่ช่วยเรื่องการดำเนินการ ได้แก่ Atos สำหรับ SAP S4HANA และ ABeam สำหรับ SAP SuccessFactors และ Round 2 สำหรับ IRPA ต่างมอบระบบสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมในทุกด้าน ด้วยความสามารถทางเทคโนโลยีใหม่ๆ วันนี้องค์กรและบุคลากรของเราจึงมีขีดความสามารถมากขึ้นในการจัดการกับความไม่แน่นอนในอนาคต

หลายบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการ เปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโลกยุคหลังโรคระบาด คุณจะให้คำแนะนำอะไรกับพวกเขา?

การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลช่วยให้องค์กรตามทันความต้องการใหม่ๆ ของลูกค้าและโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ จึงไม่ถือว่าเป็นการลงทุนสูงอีกต่อไป แต่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการอยู่รอดของธุรกิจในยุคใหม่นี้ การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเป็นวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องและจะขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจต่อไป เมื่อเราพิจารณาถึงโลกยุคหลังการแพร่ระบาด COVID-19 สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ พฤติกรรม ดิจิทัลของผู้บริโภคเปลี่ยนไปตลอดกาล ลูกค้าซื้อของออนไลน์มากขึ้นและใช้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อมากขึ้น เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และลำโพง เสียงอัจฉริยะ องค์กรต้องคำนึงถึงแนวโน้มใหม่ เหล่านี้เพื่อดึงและรักษา  ผู้บริโภคในโลกดิจิทัลไว้

 

 

 

Exit mobile version